
วิธีฝึกภาษาอังกฤษเดี๋ยวนี้มีหลากหลายอย่างมาก ขึ้นอยู่กับความชอบ จริตของแต่ละบุคคลได้เลย เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารจึงมีหลากหลายสถานการณ์ให้เลือกเหมาะสมกับตัวเอง อีกหนึ่งวิธีแนะนำก็คือ การตีตั๋วเข้าไปดูละครเวทีภาคภาษาอังกฤษ หากเราจะใช้วิธีนี้ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ศึกษาเรื่องย่อของละครเวที
ละครเวทีหากเราจะเข้าไปดูถ้าเป็นภาคภาษาไทยก็อาจจะต้องไม่เตรียมตัวอะไรมาก แต่หากเป็นภาคภาษาอังกฤษเราขอแนะนำว่า ควรศึกษาเนื้อหาของเรื่องนั้นเบื้องต้นเสียก่อนจะทำให้เราเข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น เมื่อเราไม่พะวงกับเนื้อเรื่องมากนักจะทำให้เราเสพเนื้อหา จดจ่อกับภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่ละครเวทีก็มักจะหยิบเรื่องดังๆมาทำอยู่แล้วการหาเนื้อเรื่องย่อมาอ่านก่อนไม่ยาก หรือหากไม่ใช่เรื่องดัง เราสามารถศึกษาได้จากสูจิบัตรของละครเวทีด้วย
ดูเพื่อการสื่อสาร
ซึ่งหนึ่งที่ทำให้เราฟังภาษาอังกฤษได้ช้า หรือ ไม่ออกเลย นั่นเป็นเพราะว่าเราจดจ่อกับคำแปลมากเกินไป เรามัวแต่กังวลว่าจะแปลออกหรือไม่ คำนี้แปลว่าอะไร กว่าจะปะติดปะต่อแต่ละคำจนกลายเป็นประโยคได้ ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว เอาอย่างนี้เราแนะนำว่า ให้มองภาษาอังกฤษเสียใหม่ มองว่ามันคือการสื่อสารกันวิธีหนึ่ง ยิ่งไปดูละครเวทีการสื่อสารยิ่งสำคัญเลยบางครั้งเราเข้าใจท่าทาง สายตา อารมณ์ที่สื่อมากกว่าภาษาอังกฤษเสียอีก
ผ่อนคลายดีกว่า เกร็ง
หากเราได้ไปนั่งในโรงละครใหญ่เพื่อดูละครเวทีภาษาอังกฤษ หลายคนอาจจะเกิดอาการเกร็งจนทำให้เรามองข้ามความสนุกของละครเวทีนั้นไปอย่างน่าเสียดาย เราอยากให้ทุกคนที่เข้าไปดูละครเวทีภาษาอังกฤษดูเพื่อความผ่อนคลายมากกว่า เกร็ง ว่าจะต้องเข้าใจสิ่งนั้นสิ่งนี้ ความรู้สึกผ่อนคลายจะทำให้เราซึมซับภาษาอังกฤษได้ดีกว่า เหมือนเราเพลิดเพลินไปกับมันสมองจะเปิดรับภาษาอังกฤษมากกว่า
ตั้งใจฟังตอนพักเบรก
ละครเวทีภาคภาษาอังกฤษ บางแห่งจะมีการพักเบรกเพื่อให้ผู้ชมได้ปรับอารมณ์กันด้วย บางทีเล่นยาวนานเกินไปอาจจะทำให้คนดูเหนื่อยจนล้าไม่อยากดูต่อให้จบ หากเป็นโรงละครภาษาอังกฤษในไทยช่วงพักครึ่งจะมีพิธีกรออกมาอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นระยะด้วย ตรงนี้หากเราตั้งใจฟังจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ง่ายขึ้น แถมยังเป็นการเช็คว่าเราเข้าใจเรื่องราวที่ผ่านมาถูกต้องหรือไม่ด้วยนะ
การดูละครเวทีภาษาอังกฤษถือว่าเป็นการฝึกหูให้ฟังภาษาอังกฤษได้ดีมากวิธีหนึ่ง ดีกว่าดูหนังที่มีซับไตเติ้ลอีก(วิธีนี้เราอาจจะแปลจากการมองเห็นคำมากกว่าการฟังบทสนทนา) แต่ถ้าใครชอบวิธีเราขอแนะนำเลย รับรองว่าหลังจากผ่านละครเวทีสัก 3 รอบ เราจะมีหูฟังภาษาอังกฤษดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด