ละครเพลง มิสไซง่อน สุดตระการตา

Miss Saigon เป็นละครเพลงที่ประพันธ์โดย Claude-Michel Schönberg และ Alain Boublil โดยมีคำร้องที่แต่งโดย Boublil และRichard Maltby โดยมีเค้าโครงเรื่องมาจาก Giacomo Puccini และเรื่อง Madame Buttery โดยทั้งสองเรื่องเป็นการเล่าถึงเคราะห์กรรมของหญิงสาวชาวเอเชียที่ถูกคนรักชาวอเมริกันทอดทิ้ง โดยมีพล็อตเรื่องอยู่ในช่วง ค.ศ 1970 ในเมืองไซง่อน ระหว่างช่วงสงครามเวียดนาม

ในส่วนของ Madam Butterfly ซึ่งเป็นเรื่องของเกอิชาที่ได้แต่งงานกับนายทหารชาวอเมริกัน ซึ่งในส่วนนี้ในเรื่องของมิซไซง่อน สาวเกอิชาถูกเปลี่ยนเป็นผู้หญิงชาวเวียดนามใต้ที่ทำงานอยู่ในบาร์แห่งหนึ่ง กับนายทหารที่เปลี่ยน เป็นแค่พลทหารธรรมดา

ละครเรื่องนี้ได้เริ่มเล่นครั้งแรกเมื่อ 20 กันยายน ปี ค.ศ.1989 ในโรงละคร Theatre Royal ณ กรุงลอนดอน จนสามารถทำการแสดงไปได้มากสุดถึง 4,092 ครั้ง ถูกยุติการแสดงนัวนที่ 30 ตุลาคม ปี ค.ศ.1999 โดยยังคงเปิดแสดงอยูที่โรงละคร Broadway Theatre นับตั้งแต่ 11 เมษายน ปี ค.ศ.1991 เป็นต้นมา

จนกระทั่งได้มาเปิดตัวแสดงอีกครั้งในปี 2014 แถมทำสถิติทำยอดขายตั๋ววันเดียวไปถึง 4 ล้านปอนด์ภายใน 1 วัน ทุกวันนี้ละครเรื่องนี้ยังคงทำการแสดงอยู่ทั่วไปถือเป็นละครลำดับที่ 13 ที่มีการแสดงอย่างยาวนานที่สุดในประวัติศาสต์

ตัวละครหลักในเรื่องมิสไซง่อน

Kim สาวน้อยวัย 17 ปี ที่เป็นเด็กกะพร้า ถูกบังคับให้ทำงานที่ “Dreamland”
Christopher Scott ทหารหนุ่มชาวอเมริกัน ที่กำลังจะเดินทางออกจากไซง่อนเพื่อกลับไปยังประเทศบ้านเกิด
The Engineer ชายลูกครึ่งเวียดนาม-ฝรั่งเศษ เป็นเจ้าของ “Dreamland” ที่สาวน้อย Kim ทำงานอยู่
Ellen – ภรรยาสาวของ Chris
Thuy – คู่หมั้นของ Kim
Gigi Van Tranh – เธอได้รับเลือกให้เป็นมิสไซง่อน
Tam – ลูกชายวัย 3 ขวบ ระหว่าง Kim กับ Chris

 

หลังจากที่การแสดงที่ลอนดอนปิดตัวลงใน ปี ค.ศ.1999 ต่อมาในบอร์ดเวย์ปี ค.ศ.2001 พวกเขาได้ออกเดินทางไป 6 สถานที่ใหญ่ ๆ ที่สำคัญใน อังกฤษ และอิสราเอล และหยุดพักอยู่หลายเดือน โดยการแสดงของพวกเขาเริ่มขึ้นที่แมนเชสเตอร์ ณ โรงละคร Place Theatre อีกทั้งยังได้เล่นที่ Birmingham Hippodrome, Mayflower Theatre, Edinburgh Playhouse, Bristol Hippodrome และสุดท้าย The Point Theater ที่ดับลิน จนในที่สุดพวกเขาก็พอใจกับการแสดงจึงหยุดพักอีกครั้งในปี 2003

ต่อมาได้มีการพัฒนาบทต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่โดย Cameron Mackintosh ซึ่งมีการปรับให้การแสดงมีขนาดไม่ใหญ่เกินไป สามารถที่จะแสดงในโรงละครขนาดเล็กได้ จนทำให้การแสดงเริ่มอีกครั้งในปี ค.ศ.2004 ยาวไปจนถึง ปี ค.ศ.2006 เป็นเวลากว่า 3 ปีด้วยกัน